วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

ดวงไฟ กิ่งไม้ ทางสองแพร่ง

๏ในค่ำคืนดึกดื่นแสนมืดมิด
ฉันเดินติดดวงไฟอยู่ลูกหนึ่ง
ใช้แสงไฟส่องทางสว่างจึง
เดินไปถึงทางข้้างหน้าได้สบาย

๏ดวงไฟบอกกับฉันว่าเดินมานาน
ผ่านถนนหนทางร้อยเส้นสาย
เดินตามฉันรับรองว่าสบาย
ถึงที่หมายไม่อยากหากตามมา

๏ฉันเดินตามดวงไฟมาแสนนาน
ได้พบพานทางสองแพร่งแปลกนักหนา
แพร่งหนึ่งนั้นดวงไฟบอก"ตามฉันมา"
แต่แพร่งสองที่กลับน่าเดินเข้าไป

๏ฉันหลงไหลหนทางในแพร่งสอง
ดวงไฟมองฉันเข้าไปไม่สั่นไหว
บอกฉันว่าทางนั้นไม่เคยไป
กลัวบรรลัยถ้าส่องทางให้ฉันเดิน

๏ฉันเดินเตะเศษกิ่งไม้ได้หนึ่งก้าน
ในรอบด้านมีความมืดยากเดินเหิน
ใช้ไม้ปัดคลำทางค่อยค่อยเดิน
คงไม่เกินกว่ากำลังหวังในใจ

๏เดินมาได้ช่วงหนึ่งฉันอ่อนล้า
ไม่รู้ว่าจุดหมายไกลแค่ไหน
มือตวัดเศษกิ่งไม้ค่อยเดินไป
สู่เส้นชัยหวังเห็นแสงที่ปลายทาง...

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

สัมพันธ์

๏สิบวัน สัมพันธ์ชิด เคียงใกล้
สิบเดือน เหมือนเพื่อนใจ แน่นแฟ้น
สิบปี บ่ร้างไกล มิตรแท้
เสี้ยววิหนึ่งคิดแค้น ขาดสิ้นสัมพันธ์

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

กลียุค

๏ดั่งเปลวเพลิงเปลวฟ้าอุกาบาต
สายฟ้าฟาดลงมาจากห้วงเวหา
ซัดกระหน่ำลงสู่พื้นพสุธา
ผลาญวิญญาทุกสิ่งดิ้นสิ้นชีวี

๏ดั่งหุบไฟบรรลัยกัลป์ที่ผลาญโลก
วิปโยคคลืนคลั่งมิอาจหนี
ทั้งสัตว์ป่าน้อยใหญ่ในไพรี
ต่างริกรี้วิ่งหนีกันพัลวัน

๏ดั่งมหาเทพยุทธเข้าถาโถม
เข้าประโคมกลองศึกให้หุนหัน
ส่งข้าศึกสวมเขาเข้าโรมรัน
ชิงฆ่ามันก่อนข้าตายไร้ศักดา

๏นี่แหละคือตัวอย่างกลียุค
ไร้ความสุขให้เฝ้าแสวงหา
เมื่อคนชั่วทำชั่วเป็นจรรยา
ไม่นานหนากลียุคมุ่งมาเยือน

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

ครวญ

๏ดวงตะวันผ่านหัวไปหลายหลายเที่ยว
ลมเฉียดเฉี่ยวเปลือกผิวหนังที่หยักย่น
ในดวงตาแห้งแล้งขาดสายชล
ยังมีคนคร่ำครวญอยู่ภายใน

๏ดั่งคลื่นคลั่งโถมไปในธารา
ดั่งพสุธาเลื่อนลั่นสนั่นไหว
ดั่งสายฟ้าฟันฟาดขาดบรรลัย
ดั่งหัวใจที่แห้งผากมากทุกข์ตรม

๏แสวงหาสิ่งใดในชีวิต
เฝ้ายึดติดศฤงคารหมั่นสะสม
อีกอำนาจบารมีที่น่าชม
กลับต้องจมกองกิเลสสมเพชตัว

๏กลับคืนสู่หนทางธรรมชาติ
น้ำสะอาดชำระล้างว่างทั้งหัว
จุดกำเนิดเกิดออกมามีแค่ตัว
อย่าเอาชั่วกลับไปให้หมองเลย

ร้อยเส้นทาง

๏แม้นมีร้อยเส้นทางถึงฝั่งฝัน
จงเลือกมันเพียงหนึ่งสร้างความหมาย
ทุ่มขยันหมั่นฝึกฝนจนวันตาย
สู่เส้นชัยไม่ยากหากเอาจริง

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

ศรัทธา

๏แม้สิ้นไร้ไม้ตอกก็ยังสู้
แม้คนดูเท่าผืนหนังยังไม่ถอย
ถูกหยามหยันพันครั้งยังเฝ้าคอย
ไม่ท้อถอยคอยยืนหยัดอัตศรัทธา